อารีอา “La donna è mobile” จากโอเปร่า Rigoletto

 อารีอา “La donna è mobile” จากโอเปร่า Rigoletto

โอเปร่าเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงไพเราะและความรู้สึกอันลึกซึ้ง การได้ดื่มด่ำกับเมโลดีที่วิจิตรบรรจงและเนื้อร้องที่ทรงพลัง ย่อมทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสถึงอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเศร้า ความโกรธ และความหวัง

ในวันนี้ เราจะมาสำรวจอารีอาอันโด่งดัง “La donna è mobile” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโอเปร่า Rigoletto ผลงานชิ้นเอกของจูเซปเป เฟอร์ดินานโด เวอร์ดี (Giuseppe Ferdinando Verdi)

เกี่ยวกับโอเปร่า Rigoletto

Rigoletto เป็นโอเปร่าที่ถูกประพันธ์ขึ้นในปี 1851 และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเวอร์ดี นับเป็นโอเปร่าชั้นยอดที่เต็มไปด้วยความดราม่า, ความโรแมนติก, และความโศกเศร้า โดยเนื้อเรื่องนั้นมาจากบทละคร “Le roi s’amuse” ของวิกเตอร์ อูโก

Rigoletto xoay quanhตัวละครหลักสามตัว:

  • Rigoletto: เจ้าหน้าที่ hunchback ที่ทำงานในราชสำนักของดยุกแห่งมานทัว และเป็นคนที่มีความขมวดรึงและมีอารมณ์ฉุนเฉียว
  • Gilda: บุตรสาวของ Rigoletto, เป็นหญิงสาวผู้บริสุทธิ์และไร้เดียงสา
  • Duke of Mantua: ดยุกแห่งมานทัว, ชายหนุ่มเจ้าชู้ที่มักใช้ความมั่งคั่งและอำนาจในการล่อลวงสตรี

Rigoletto โกรธแค้นเมื่อดยุกล่อลวง Gilda และตัดสินใจแก้แค้น Duke of Mantua โดยการหลอกลวงDuke of Mantuaให้ไปอยู่ในสถานการณ์อันตราย

“La donna è mobile” - อารีอาแห่งความแปรปรวน

“La donna è mobile” เป็นอารีอาที่ร้องโดยDuke of Mantuaในบทที่สองของโอเปร่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังสรรเสริญผู้หญิง และเปรียบเทียบพวกเธอเหมือนกับ “ดอกไม้ที่บานสะพรั่งและเหี่ยวเฉา”

เนื้อร้องของอารีอา “La donna è mobile” บอกเล่าถึงความเห็นแก่ตัวและการมองผู้หญิงในแง่ลบของ Duke of Mantua โดยเขาได้ร้องว่า “สตรีนั้นเคลื่อนไหวอย่างไม่แน่นอน เหมือนกับใบไม้ที่ถูกกระแสลมพัดไปมา และไม่มีความภักดีต่อผู้ใด”

**

เนื้อร้อง แปลเป็นไทย
La donna è mobile, quasi un flutto สตรีนั้นเคลื่อนไหวเหมือนคลื่นที่ไหล
e il suo mignotto และนิ้วชี้ของเธอ
è sempre diverso. ก็มักจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ
E’ si fa dare a chi la vuole, เธอให้ตัวแก่ผู้ใดที่ต้องการ

ความโดดเด่นของ “La donna è mobile”

อารีอา “La donna è mobile” ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่สมัยที่โอเปร่า Rigoletto ถูกแสดงครั้งแรก นี่เป็นเพราะเหตุผลหลายประการ:

  • เมโลดีที่ติดหู: “La donna è mobile” มีเมโลดีที่ไพเราะและง่ายต่อการจดจำ โดยมีการผสานระหว่างส่วนที่เป็นเมโลดีช้าๆ และส่วนที่เป็นเมโลดีเร็วขึ้น ทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงความกระฉับกระเฉง

  • เนื้อร้องที่ทรงพลัง: เนื้อร้องของ “La donna è mobile” แสดงถึงความคิดเห็นของ Duke of Mantua ต่อสตรีอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทำให้ผู้ฟังเกิดความสงสัยและอยากรู้จักตัวละครนี้มากขึ้น

  • เทคนิคการร้องที่โดดเด่น: “La donna è mobile” เป็นอารีอาที่ต้องการเทคนิคการร้องระดับสูง โดยนักร้องต้องสามารถร้องเมโลดีที่หลากหลาย

มรดกของ “La donna è mobile”

“La donna è mobile” ได้กลายเป็นหนึ่งในอารีอาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากโอเปร่า Rigoletto และถูกนำไปแสดงในเวทีต่างๆ ทั่วโลก

นอกจากนั้น อารีอา “La donna è mobile” ยังถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์, โทรทัศน์, และโฆษณาต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้คนทั่วไปได้มีโอกาสสัมผัสกับความงามของโอเปร่า

ข้อคิดที่น่าสนใจ:

แม้ว่าเนื้อร้องของ “La donna è mobile” จะแสดงถึงมุมมองที่ไม่ดีต่อสตรี แต่ก็สามารถตีความได้ว่า Duke of Mantua กำลังหลอกลวงตัวเอง เนื่องจากเขาเองก็ตกหลุมรัก Gilda และต้องการที่จะอยู่กับเธอ

ในที่สุด Duke of Mantua ก็ต้องเผชิญกับผลกรรมของการกระทำของเขา ซึ่งเป็นบทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับความรัก, ความซื่อสัตย์, และการยอมรับความจริง